จำนองบ้านและที่ดินกับญาติ โดนเรียกเงินเกินจริง

กรณีการจำนองบ้านที่ดินกับญาติ โดนเรียกเงินเกินจริงนั้น เป็นเรื่องที่ผู้จำนองควรดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยควรตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ของสัญญาจำนองให้ถี่ถ้วน ดังนี้

  • อัตราดอกเบี้ย ควรตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ในสัญญาจำนองว่าเป็นไปตามอัตราที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ อัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนดสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 15 ต่อปี หากอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดในสัญญาจำนองสูงกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ผู้จำนองสามารถแจ้งให้ญาติผู้รับจำนองแก้ไขสัญญาจำนองได้
  • ค่าธรรมเนียม ควรตรวจสอบค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ญาติผู้รับจำนองเรียกเก็บว่าเป็นไปตามอัตราที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนจำนอง ค่าธรรมเนียมการประเมินราคาทรัพย์สิน ค่าอากรแสตมป์ ฯลฯ หากค่าธรรมเนียมที่ญาติผู้รับจำนองเรียกเก็บสูงกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ผู้จำนองสามารถแจ้งให้ญาติผู้รับจำนองแก้ไขสัญญาจำนองได้
  • กำหนดระยะเวลาการชำระหนี้ ควรตรวจสอบกำหนดระยะเวลาการชำระหนี้ที่กำหนดไว้ในสัญญาจำนองว่าเหมาะสมหรือไม่ หากกำหนดระยะเวลาการชำระหนี้สั้นเกินไป ผู้จำนองอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันตามกำหนด และอาจถูกญาติผู้รับจำนองยึดบ้านที่ดินได้

หากผู้จำนองพบว่าสัญญาจำนองมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม หรือกำหนดระยะเวลาการชำระหนี้ที่ไม่เป็นธรรม ผู้จำนองสามารถแจ้งให้ญาติผู้รับจำนองแก้ไขสัญญาจำนองได้ หากญาติผู้รับจำนองไม่แก้ไขสัญญาจำนอง ผู้จำนองสามารถฟ้องร้องญาติผู้รับจำนองต่อศาลเพื่อขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาจำนองได้

นอกจากนี้ ผู้จำนองควรทำบันทึกเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐาน หากญาติผู้รับจำนองเรียกเงินเกินจริง โดยบันทึกเหตุการณ์ควรระบุรายละเอียดต่างๆ เช่น วัน เวลา สถานที่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น บันทึกเหตุการณ์นี้จะเป็นหลักฐานสำคัญในการฟ้องร้องญาติผู้รับจำนองต่อศาล

ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำหรับผู้จำนองบ้านที่ดินกับญาติ

  • ควรปรึกษาทนายความก่อนทำการจำนองบ้านที่ดินกับญาติ
  • ควรตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ของสัญญาจำนองให้ถี่ถ้วน
  • ควรทำบันทึกเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐาน หากญาติผู้รับจำนองเรียกเงินเกินจริง

หากผู้จำนองปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ผู้จำนองสามารถปกป้องสิทธิของตนเองได้

Share on: