การตั้งผู้จัดการมรดกและไถ่ถอนโฉนดที่ดินออกมานั้น สามารถทำได้ดังนี้
- ในกรณีที่ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมตั้งผู้จัดการมรดกไว้ ทายาทตามพินัยกรรมต้องนำพินัยกรรมไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินท้องที่ที่ที่ดินตั้งอยู่ ผู้จัดการมรดกที่ได้รับแต่งตั้งตามพินัยกรรมจึงมีอำนาจดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์มรดกรวมทั้งการไถ่ถอนโฉนดที่ดินออกมาได้
- ในกรณีที่ผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมตั้งผู้จัดการมรดกไว้ ทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกสามารถร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ ศาลจะพิจารณาแต่งตั้งผู้จัดการมรดกจากทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกตามลำดับต่อไปนี้
- ทายาทที่บรรลุนิติภาวะ
- ทายาทที่ศาลเห็นว่าเหมาะสม
เมื่อศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว ผู้จัดการมรดกมีอำนาจดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์มรดกรวมทั้งการไถ่ถอนโฉนดที่ดินออกมาได้
สำหรับการไถ่ถอนโฉนดที่ดินนั้น ผู้จัดการมรดกสามารถดำเนินการได้ดังนี้
- ชำระหนี้แก่ผู้รับจำนองหรือผู้รับซื้อฝาก
- ยื่นคำขอจดทะเบียนไถ่ถอนโฉนดที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินท้องที่ที่ที่ดินตั้งอยู่
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับคำขอจดทะเบียนไถ่ถอนโฉนดที่ดินแล้ว จะตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หากเอกสารหลักฐานถูกต้อง พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการจดทะเบียนไถ่ถอนโฉนดที่ดินออกให้
ทั้งนี้ ผู้จัดการมรดกอาจมอบอำนาจให้บุคคลอื่นเป็นผู้ดำเนินการไถ่ถอนโฉนดที่ดินแทนก็ได้ โดยต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารหลักฐานที่ต้องยื่นประกอบคำขอจดทะเบียนไถ่ถอนโฉนดที่ดิน ได้แก่
- สำเนาคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
- สำเนาโฉนดที่ดิน
- หนังสือรับรองการชำระหนี้จากเจ้าหนี้
ระยะเวลาในการดำเนินการจดทะเบียนไถ่ถอนโฉนดที่ดินนั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณงานของสำนักงานที่ดินและพื้นที่ของที่ดินที่จะดำเนินการจดทะเบียน ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1-3 วันทำการ