การรังวัดที่ดินบิดเบี้ยว หมายถึง การรังวัดที่ดินที่มีรูปร่างไม่สม่ำเสมอ หรือมีมุมหักโค้ง โดยอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพภูมิประเทศ การวางแนวของถนนหรืออาคาร หรือความไม่รอบคอบในการรังวัดที่ดินครั้งแรก
การรังวัดที่ดินบิดเบี้ยวมีความสำคัญ เนื่องจากจะช่วยให้ทราบถึงขอบเขตที่ดินที่แท้จริง ซึ่งอาจแตกต่างจากขอบเขตที่ปรากฏในเอกสารสิทธิ์เดิม หากที่ดินมีรูปร่างบิดเบี้ยวมาก อาจทำให้พื้นที่ที่ดินจริงน้อยกว่าที่ปรากฏในเอกสารสิทธิ์เดิม ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาการครอบครองที่ดิน ปัญหาการแบ่งมรดก หรือปัญหาการใช้ประโยชน์จากที่ดิน
การรังวัดที่ดินบิดเบี้ยวสามารถทำได้โดยเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดิน โดยอาศัยเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ เช่น เครื่องวัดระยะด้วยเลเซอร์ (Laser Distance Meter) เครื่องวัดมุมด้วยเลเซอร์ (Laser Theodolite) และกล้องถ่ายภาพทางอากาศ (Aerial Photography)
ขั้นตอนการรังวัดที่ดินบิดเบี้ยว ดังนี้
- สำรวจพื้นที่ที่ดิน เพื่อตรวจสอบสภาพภูมิประเทศและขอบเขตที่ดินเบื้องต้น
- กำหนดจุดควบคุม (Control Point) เพื่อใช้เป็นจุดอ้างอิงในการรังวัด
- วัดระยะและมุมของขอบเขตที่ดิน
- จัดทำแผนที่ที่ดิน
- จัดทำเอกสารรังวัดที่ดิน
ค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ดินบิดเบี้ยว ขึ้นอยู่กับขนาดที่ดิน สภาพภูมิประเทศ และระยะทางในการรังวัด โดยค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ดังนี้
- เนื้อที่ไม่เกิน 5 ไร่ ประมาณ 3,480 บาท
- เนื้อที่ไม่เกิน 15 ไร่ ประมาณ 6,760 บาท
- เนื้อที่ไม่เกิน 30 ไร่ ประมาณ 10,040 บาท
หากที่ดินบิดเบี้ยวมาก หรือมีสภาพภูมิประเทศที่ยากต่อการรังวัด อาจทำให้ค่าใช้จ่ายในการรังวัดสูงมากขึ้น
การรังวัดที่ดินบิดเบี้ยว มีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากที่ดินที่มีรูปร่างบิดเบี้ยว เจ้าของที่ดินควรพิจารณารังวัดที่ดินบิดเบี้ยว หากที่ดินมีรูปร่างบิดเบี้ยวมาก เพื่อทราบถึงขอบเขตที่ดินที่แท้จริง และป้องกันการเกิดปัญหาต่างๆ ในอนาคต
ต่อไปนี้เป็นข้อดีของการรังวัดที่ดินบิดเบี้ยว
- ทราบถึงขอบเขตที่ดินที่แท้จริง
- ป้องกันปัญหาการครอบครองที่ดิน
- ป้องกันปัญหาการแบ่งมรดก
- ป้องกันปัญหาการใช้ประโยชน์จากที่ดิน
หากท่านต้องการรังวัดที่ดินบิดเบี้ยว สามารถติดต่อสำนักงานที่ดินในพื้นที่ เพื่อขอรับบริการรังวัดที่ดินได้