การเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลแล้วไม่จ่าย ย่อมส่งผลเสียต่อตัวผู้กู้ยืมเอง ดังนี้
- มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้จะถูกคิดเพิ่มจากดอกเบี้ยปกติ ซึ่งถือเป็นค่าปรับสำหรับการชำระหนี้ล่าช้าเกินระยะเวลาที่กำหนด โดยดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้จะคิดบนยอดเงินต้นของค่างวดที่เราผิดนัดชำระหนี้เท่านั้น
- ถูกติดตามทวงถามหนี้ เจ้าหนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ติดตามทวงถามหนี้เพื่อเรียกร้องให้ชำระหนี้ โดยอาจใช้วิธีการโทรศัพท์ การส่งข้อความทาง SMS หรืออีเมล์ หรือการส่งจดหมาย
- ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หากเจ้าหนี้ไม่สามารถทวงถามหนี้ได้สำเร็จ อาจฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาล ซึ่งหากศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยจะต้องชำระหนี้ตามคำพิพากษา รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีทั้งหมด
- ถูกยึดทรัพย์ หากจำเลยไม่สามารถชำระหนี้ตามคำพิพากษา อาจถูกเจ้าหนี้ยึดทรัพย์เพื่อนำไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาชำระหนี้
อย่างไรก็ตาม ยังมีทางออกสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล โดยสามารถดำเนินการดังนี้
- ติดต่อเจ้าหนี้เพื่อขอเจรจา แจ้งเหตุผลที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ และขอเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ย หรือลดยอดผ่อนชำระ เป็นต้น
- ขอความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
- ขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือกระทรวงยุติธรรม
หากผู้กู้ยืมไม่สามารถชำระหนี้ได้ สิ่งสำคัญคืออย่านิ่งเฉย ควรติดต่อเจ้าหนี้เพื่อขอเจรจาหาทางออกร่วมกัน เพื่อไม่ให้ปัญหาหนี้สินลุกลามไปมากกว่านี้