แก้ไขล่าสุด วันที่ 3rd September, 2023 at 12:06 am
อัมพฤกษ์ (Stroke) เป็นโรคที่เกิดจากการที่สมองขาดเลือด ส่งผลทำให้เนื้อสมองตายลง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรงหรือสูญเสียการรับรู้ของร่างกายบางส่วนหรือทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าสมองส่วนใดถูกทำลาย
สาเหตุของการเกิดอัมพฤกษ์ มีดังนี้
- หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic stroke) เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการสะสมของไขมัน คอเลสเตอรอล และแคลเซียม ที่ผนังหลอดเลือดสมอง ทำให้หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
- หลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic stroke) เกิดจากการที่หลอดเลือดสมองแตก ส่งผลให้เลือดออกในสมอง กดทับเนื้อสมอง ทำให้เนื้อสมองตายลง
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอัมพฤกษ์ ได้แก่
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคเบาหวาน
- โรคหัวใจ
- โรคไขมันในเลือดสูง
- การสูบบุหรี่
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน
- ประวัติครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
อาการของอัมพฤกษ์ ได้แก่
- อ่อนแรงหรือสูญเสียการรับรู้ของร่างกายบางส่วนหรือทั้งหมด
- พูดไม่ชัดหรือพูดไม่ได้
- เวียนศีรษะ
- ชัก
- มีปัญหาในการมองเห็น
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- หมดสติ
หากมีอาการของอัมพฤกษ์ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เนื่องจากหากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น เสียชีวิต อัมพาตถาวร ภาวะสมองเสื่อม เป็นต้น
การรักษาอัมพฤกษ์ มีดังนี้
- การรักษาแบบประคับประคอง เช่น การกายภาพบำบัด การใช้ยา
- การรักษาด้วยเทคโนโลยี เช่น การใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าสมอง (Brain stimulation)
- การผ่าตัด เช่น การผ่าตัดหลอดเลือดสมอง
การรักษาอัมพฤกษ์ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค โดยแพทย์จะพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
การป้องกันอัมพฤกษ์สามารถทำได้ดังนี้
- ควบคุมโรคความดันโลหิตสูง
- ควบคุมโรคเบาหวาน
- ควบคุมโรคไขมันในเลือดสูง
- เลิกสูบบุหรี่
- ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
อัมพฤกษ์เป็นโรคที่อาจส่งผลรุนแรงต่อผู้ป่วยทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาและดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข