การนอนไม่หลับในผู้สูงอายุอาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น
- การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายตามวัย เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การลดลงของประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
- โรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคซึมเศร้า โรคอัลไซเมอร์
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้
- ปัจจัยทางจิตใจ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล
การรักษาอาการนอนไม่หลับในผู้สูงอายุนั้น แพทย์จะพิจารณาจากสาเหตุของอาการเป็นสำคัญ โดยอาจใช้วิธีการรักษาต่างๆ ดังนี้
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน เช่น เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- การใช้ยานอนหลับ ควรใช้อย่างระมัดระวังในผู้สูงอายุ เนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น อาการง่วงซึมในตอนกลางวัน ความสามารถในการคิดและตัดสินใจลดลง
- การรักษาโรคประจำตัวที่เป็นสาเหตุของอาการนอนไม่หลับ
- การให้คำแนะนำและกำลังใจแก่ผู้ป่วยและครอบครัว
สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุ 81 ปีขึ้นไป การรักษาอาการนอนไม่หลับควรเน้นที่การปรับพฤติกรรมการนอนเป็นหลัก โดยอาจใช้ยานอนหลับเป็นทางเลือกสุดท้ายในกรณีที่จำเป็น เนื่องจากผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยานอนหลับได้มากกว่าคนทั่วไป
ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหานอนไม่หลับ
- เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาทุกวัน แม้แต่วันหยุดสุดสัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ เนื่องจากแสงจากหน้าจออุปกรณ์เหล่านี้อาจรบกวนการนอนหลับ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรออกกำลังกายใกล้เวลานอน
- สร้างบรรยากาศในห้องนอนที่เอื้อต่อการนอนหลับ เช่น ห้องนอนควรมืด เงียบ และเย็นสบาย
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ก่อนนอน
- หากิจกรรมผ่อนคลายทำก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง
- หากมีปัญหานอนไม่หลับเป็นเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์