แก้ไขล่าสุด วันที่ 28th August, 2023 at 10:43 am
รู้จักโรคอารมณ์สองขั้ว
โรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar Disorder) คือ โรคที่มีความผิดปกติทางอารมณ์ โดยมีการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ระหว่างช่วงอารมณ์ซึมเศร้า (Depression) สลับกับช่วงที่อารมณ์ดีหรือหงุดหงิดมากกว่าปกติ (Mania) ระยะเวลาในแต่ละช่วงอาจอยู่เป็นสัปดาห์หรือเดือน โดยมีช่วงอารมณ์ปกติคั่นกลางได้ ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการซึมเศร้าและคิดว่าตนเองเป็นโรคซึมเศร้า อย่างไรก็ตามแพทย์จะซักประวัติและติดตามลักษณะอาการขณะรักษาเพื่อใช้วินิจฉัยในการแยกโรค
อาการอารมณ์สองขั้ว
- ช่วงอารมณ์ดีหรือหงุดหงิดมากกว่าปกติ
- มั่นใจในตัวเองเพิ่มมากขึ้นหรือคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่
- นอนน้อย
- พูดมากกว่าปกติหรือพูดอย่างไม่หยุด
- ความคิดแล่นเร็ว
- วอกแวกง่าย
- อยากทำอะไรหลาย ๆ อย่างในช่วงเวลานั้น
- หมกมุ่นอย่างมากกับกิจกรรมที่ทำให้เกิดปัญหา เช่น ใช้จ่ายหรือลงทุนเยอะ ไม่ยับยั้งใจเรื่องเพศ ฯลฯ
- ช่วงอารมณ์ซึมเศร้า
- ซึมเศร้าเป็นส่วนใหญ่ของวัน แทบทุกวัน
- ความสนใจในกิจกรรมต่าง ๆ ลดลง
- เบื่ออาหารหรือรับประทานอาหารมากเกิน
- นอนไม่หลับหรือหลับมากไป
- กระสับกระส่ายหรือเชื่องช้ามากขึ้น
- อ่อนเพลีย
- รู้สึกตนเองไร้ค่า
- สมาธิลดลง
- คิดถึงเรื่องการตายอยู่เรื่อย ๆ
สาเหตุโรคอารมณ์สองขั้ว
สาเหตุโรคอารมณ์สองขั้วเชื่อว่าเกิดจากหลายปัจจัย เช่น
- มีความผิดปกติของสารสื่อประสาทหรือโครงสร้างในสมอง
- ความเครียด
- พันธุกรรม มีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคไบโพลาร์
รักษาโรคอารมณ์สองขั้ว
- การรักษาด้วยยา
กลไกของยา คือ การปรับสารเคมีในสมอง ยาจะช่วยทำให้อารมณ์มั่นคงและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักกังวลกับผลข้างเคียงของยา ประเด็นนี้ผู้ป่วยสามารถปรึกษาและร่วมแสดงความคิดเห็นกับแพทย์ระหว่างที่ปรึกษา เพื่อปรับยาให้เหมาะสมในแต่ละราย กลุ่มยาที่ใช้ในโรคอารมณ์สองขั้ว ได้แก่
- ยาควบคุมอารมณ์
- ยาต้านโรคจิต
- ยาต้านเศร้า (มักใช้ช่วงสั้น ๆ ในระยะที่มีอาการซึมเศร้า)
- การรักษาด้วยจิตบำบัด
ผู้ป่วยโรคอารมณ์สองขั้วมักเจอกับปัญหาในด้านต่าง ๆ ที่เป็นผลจากโรค การทำจิตบำบัดจึงมีประโยชน์มาก ผู้ป่วยจะเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองและการจัดการปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตได้ดีขึ้น นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมบำบัดอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ เช่น ดนตรีบำบัด ศิลปะบำบัด และโยคะ
![]() | ![]() | ![]() |
- การรักษาด้วยไฟฟ้า
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมาก หรือตัวโรคตอบสนองต่อยาไม่ดีเท่าที่ควร ECT เป็นตัวเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพดี โดยกระแสไฟฟ้าจะกระตุ้นสมองเพื่อปรับสารเคมีต่าง ๆ ผู้ป่วยจะต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด บางรายอาจมีปัญหาด้านความจำช่วงสั้น ๆ แต่ยังไม่พบว่า ECT มีผลเสียต่อสมองในระยะยาว
ลองสังเกตตนเองและคนใกล้ตัว ถ้าเข้าข่ายโรคไบโพลาร์ให้รีบไปตรวจวินิจฉัยและรีบรักษาแต่เนิ่น ๆ หากรู้ ยอมรับตัวเองได้ และเข้ารับการรักษาก็จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้
source: https://www.bangkokhospital.com/content/bipolar-disorder